ยูนิโคล่ สิงคโปร์ ฉลองคอลเลคชัน “Hey, Let’s Go!” นับเป็นความร่วมมือครั้งที่สองระหว่างยูนิโคล่ และ Studio Ghibli โดยเป็นการเติมสีสันและความสนุกของซัมเมอร์นี้ สำหรับงานที่จัดขึ้น ณ Bugis+ ประเทศสิงคโปร์ เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 17 สิงหาคมที่ผ่านมา ผู้เข้าร่วมงานแถลงข่าวประกอบด้วย มร.โทชิโอะ ซูซูกิ กรรมการบริหารและโปรดิวเซอร์ที่สตูดิโอจิบลิ พร้อมด้วย มาริโอ้ เมาเร่อ นักแสดงชื่อดังชาวไทยและแฟนตัวยงของ Studio Ghibli โดยทั้งสองท่านทำให้แฟนๆ หลงใหลไปกับเรื่องราวของคอลเลคชันนี้รวมถึงผลงานต่างๆ จากทางสตูดิโออย่างมาก

โทชิโอะ ซูซูกิ กรรมการบริหารและโปรดิวเซอร์ที่สตูดิโอจิบลิ (Studio Ghibli)

นอกเหนือจากการเปิดตัวคอลเลคชันนี้อย่างเป็นทางการที่จะวางจำหน่ายในวันจันทร์ที่ 21 สิงหาคม แล้ว Bugis+ ยังจัดกิจกรรมพิเศษมากมาย อาทิ เทศกาลภาพยนตร์ แรลลี่ตามหาจุดแสตมป์ มุมถ่ายภาพพร้อมฉากหลังจากอนิเมชันยอดนิยมของ Studio Ghibli และโมเดลของคาแรคเตอร์ยอดฮิต

มร.ซูซูกิ กล่าว ณ งานกิจกรรมว่า “การได้พบกันที่สิงคโปร์ในครั้งนี้ ต่อเนื่องจากการจัดงานฉลองความร่วมมือในคอลเลคชันแรกก่อนหน้าที่ประเทศไทย ผมรู้สึกตื่นเต้นมากที่ได้ให้เห็นว่าผู้คนในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีความหลงใหลกับผลงานของ Studio Ghibli เป็นอย่างมาก พวกเรารู้สึกยินดีมากที่ได้เห็นคอลเลคชันนี้จากยูนิโคล่ และ Studio Ghibli วางจำหน่ายใน 6 ประเทศ ได้แก่ สิงคโปร์ มาเลเซีย ไทย ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย และเวียดนาม”

มาริโอ้ เมาเร่อ กล่าวว่า “ผมมีความผูกพันส่วนตัวที่ดีกับสิงคโปร์ ผมรู้สึกเป็นเกียรติที่ได้มีส่วนร่วมในกิจกรรมนี้กับยูนิโคล่ ซึ่งผมได้ร่วมงานที่เมืองไทยอยู่บ่อยครั้ง รวมถึงความชื่นชอบของผมต่อ Studio Ghibli ด้วย สำหรับคอลเลคชันที่ผ่านมานั้น ได้รับเสียงตอบรับที่ดีมากในเมืองไทย ส่วนคอลเลคชันนี้ได้นำเสนอดีไซน์ต่างๆ ที่น่าสนใจ และผมคิดว่าทั้งผู้ใหญ่และเด็กๆ จะต้องชื่นชอบแน่นอนครับ”

มร.ยูกิ ยามาดะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ยูนิโคล่ สิงคโปร์ กล่าวว่า “ในฐานะบริษัท ยูนิโคล่ตั้งใจที่ทำให้การใช้ชีวิตในทุกๆ วันของทุกคนดีขึ้น ผ่านหลักปรัชญาไลฟ์แวร์ (LifeWear) และกิจกรรมอื่นๆ พวกเรายินดีมากที่จะได้จัดกิจกรรมนี้พร้อมกับการสนับสนุนของ Studio Ghibli และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าผู้คนในสิงคโปร์ทุกช่วงวัยจะสนุกไปกับโลกของจิบลิผ่านคอลเลคชันนี้”

สนุกกับกิจกรรมพิเศษได้ที่ Bugis+ สิงค์โปร์

แฟนคลับทุกวัยของสตูดิโอจิบลิเตรียมพบความสนุกสนานและกิจกรรมพิเศษมากมายเพื่อฉลองการเปิดตัวคอลเลคชันนี้ เริ่มด้วยงานเทศกาลภาพยนตร์ที่ฉายผลงานภาพยนตร์อนิเมชัน 6 เรื่องจาก Studio Ghibli ให้ชมฟรีที่โรงภาพยนตร์ Golden Village ที่ Bugis+ ตั้งแต่วันที่ 17 สิงหาคมนี้ นอกจากนี้ Bugis+ เตรียมจัดแรลลี่ตามหาจุดแสตมป์ มุมถ่ายภาพพร้อมฉากหลังจากอนิเมชันเรื่อง My Neighbor Totoro และ Spirited Away พร้อมจัดแสดงโมเดลของคาแรคเตอร์เอกของสตูดิโออย่าง Totoro และ Ponyo สำหรับบางร้านสาขาในภูมิภาคนี้ จะจัดกิจกรรมวาดรูปคาแรคเตอร์ Dust Bunnies จากเรื่องอนิเมชั่น My Neighbor Totoro พร้อมร่วมสนุกกับเกมซ่อนหาของจิบลิ

คอลเลคชันเอ็กซ์คลูซีฟสำหรับ 6 ประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

คอลเลคชันใหม่นี้จะวางจำหน่ายผ่านร้านสาขาของสิงคโปร์ มาเลเซีย ไทย ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย และเวียดนามรวมถึงเว็บไซต์ยูนิโคล่ของประเทศดังกล่าวเท่านั้น ดีไซน์ต่างๆ นำเสนอผ่านผลงานชิ้นเอกของ Studio Ghibli และผลงานที่ถ่ายทอดโดยกานต์ญาดา ศิลปินชาวไทย ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากงานของสตูดิโอ คอลเลคชันนี้มีสินค้าทั้งของผู้ชาย เด็ก และเด็กเล็ก ในหลากหลายดีไซน์ เช่น เสื้อยืด เสื้อเชิ้ต เสื้อสเวต ถุงเท้า และกระเป๋าสะพายไหล่ยอดฮิต

กิจกรรมจะจัดต่อเนื่องทุกวัน ตั้งแต่วันที่ 17 สิงหาคม – 14 กันยายน 2566 เวลา 10.00 น. – 22.00 น. สามารถเข้าชมฟรี

รายละเอียดคอลเลคชัน

วันวางจำหน่าย: วันจันทร์ที่ 21 สิงหาคม 2566
สินค้า: คอลเลคชันเสื้อยืด STUDIO GHIBLI
สินค้าสำหรับผู้ชาย 13 ดีไซน์ ประกอบด้วย เสื้อยืด เสื้อเชิ้ต และเสื้อสเวต ราคา 590 – 990 บาท
สินค้าสำหรับเด็ก เสื้อยืด 6 ดีไซน์ ราคา 390 บาท
สินค้าสำหรับเด็กเล็ก เสื้อยืด ราคา 390 บาท
ถุงเท้าและกระเป๋าสะพายไหล่รวม 5 ดีไซน์ ราคา 130 – 590 บาท
สถานที่จำหน่าย: ร้านยูนิโคล่ทุกสาขาและ Uniqlo.com
เว็บไซต์พิเศษ: https://www.uniqlo.com/th/th/special-feature/ghibli-collection

เกี่ยวกับโทชิโอะ ซูซูกิ

A close-up of an old person Description automatically generatedเกิดที่นาโกยาในปี 1948 หลังจากสำเร็จการศึกษาจากคณะอักษรศาสตร์ มหาวิทยาลัยเคโอ เขาได้เข้าทำงานที่สำนักพิมพ์โทคุมะโชเต็น หลังจากทำงานในนิตยสารรายสัปดาห์ชื่อ อาซาฮีเกอิโนะ “Asahi Geino” เขาได้เข้าร่วมการเปิดตัวนิตยสารอนิเมชั่นรายเดือนชื่อ อนิเมจ “Animage” ขณะดำรงตำแหน่งรองบรรณาธิการและบรรณาธิการบริหาร เขามีส่วนร่วมในการผลิตผลงานของอิซาโอะ ทากาฮาตะ และ ฮายาโอะ มิยาซากิ อาทิ มหาสงครามหุบเขาแห่งสายลม “Nausicaa of the Valley of the Wind”, สุสานหิ่งห้อย “Grave of the Fireflies” และ โทโทโร่เพื่อนรัก “My Neighbor Totoro” เขายังมีส่วนร่วมในการก่อตั้งสตูดิโอจิบลิในปี 1985 โดยเขาได้ทุ่มเททำงานให้กับสตูดิโอจิบลิตั้งแต่ปี 1989 เป็นต้นมา ตั้งแต่นั้นมาเขาได้เป็นผู้ผลิตงานภาพยนตร์เกือบทั้งหมด ปัจจุบันเขาดำรงตำแหน่งเป็นกรรมการบริหารและโปรดิวเซอร์ที่สตูดิโอจิบลิ

เกี่ยวกับกานต์ญาดา

A person smiling for the camera Description automatically generatedศิลปินชาวไทย ผู้ถ่ายทอดภาพถ่ายและบทกวีเป็นประจำทุกเดือนในผลงานชื่อว่า จากปักธงชัย “From Pak Thong Chai” ซึ่งได้รับการตีพิมพ์อย่างต่อเนื่องลงในเนปปุ “Neppu” จุลสารรายเดือนที่จัดพิมพ์โดยสตูดิโอจิบลิ นอกจากนี้เธอยังเป็นผู้แต่ง ‘เรื่องราวเกี่ยวกับพิพิธภัณฑ์จิบลิ’ (The Tale of Ghibli Museum) เป็นผู้แต่งร่วมแต่งเรื่อง โกโร่ เธอมาจากไหน, เธอจะไปที่ใด “Goro Where did you Come from, Where are you Going?” และ ‘ปัญญาวาทะที่ฉันได้ยินจาก Suzuki เกี่ยวกับงานของ Ghibli’ (Words of Wisdom I Heard from Ghibli’s Suzuki About Work) (ทั้งสองฉบับได้รับการตีพิมพ์แล้วที่ญี่ปุ่น) ในปี 2022 เธอได้ตีพิมพ์ กานต์ญาดา “KANYADA” คอลเลคชันภาพถ่ายทิวทัศน์ที่สวยงามของอำเภอปักธงชัย ประเทศไทย

# # #

เกี่ยวกับสตูดิโอจิบลิ

สตูดิโอจิบลิก่อตั้งขึ้นในปี 1985 โดยผู้กำกับภาพยนตร์อนิเมชั่นอย่าง ทาคาฮาตะและฮายาโอะ มิยาซากิ ผู้มีผลงานการสร้างภาพยนตร์เรื่องยาวมาแล้วถึง 24 เรื่อง ภาพยนตร์จากสตูดิโอจิบลิส่วนใหญ่ครองอันดับหนึ่งในบ็อกซ์ออฟฟิศของประเทศญี่ปุ่นในปีที่ออกฉาย ผลงานของสตูดิโออย่าง มิติวิญญาณมหัศจรรย์ “SPIRITED AWAY” (ปี 2001), ปราสาทเวทมนตร์ของฮาวล์ “HOWL’S MOVING CASTLE” (ปี 2004) และเจ้าหญิงจิตวิญญาณแห่งพงไพร “PRINCESS MONONOKE” (ปี 1997) เป็นภาพยนตร์ที่ทำรายได้สูงสุดติด 1 ใน 10 อันดับของญี่ปุ่น ภาพยนตร์จากสตูดิโอจิบลิได้รับรางวัลมากมายและได้รับการชื่นชมจากนักวิจารณ์ภาพยนตร์และผู้เชี่ยวชาญด้านอนิเมชั่นทั่วโลก มิติวิญญาณมหัศจรรย์ “SPIRITED AWAY” ได้รับรางวัลโกลเด้นแบร์ในสาขาภาพยนตร์สารคดียอดเยี่ยมจากเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติเบอร์ลินปี 2002 และคว้ารางวัลออสการ์สาขาภาพยนตร์แอนิเมชั่นยอดเยี่ยมประจำปี 2002 ในเดือนตุลาคมปี 2001 สตูดิโอจิบลิร่วมกับมูลนิธิวัฒนธรรมอนุสรณ์โทคุมะเพื่ออนิเมชั่นได้ก่อตั้งพิพิธภัณฑ์จิบลิมิทากะ ซึ่งออกแบบโดย ฮายาโอะ มิยาซากิ นอกจากนั้นอนิเมชั่นเรื่องปีกแห่งฝัน วันแห่งรัก “THE WIND RISES” (ปี 2013), ตำนานเจ้าหญิงคะงุยะ “THE TALE OF THE PRINCESS KAGUYA” (ปี 2013), ฝันของฉันต้องมีเธอ “WHEN MARNIE WAS THERE” (ปี 2014) และเต่าแดง “THE RED TURTLE” (ปี 2016) ยังได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลอะคาเดมี่อวอร์ดส์ในสาขาภาพยนตร์อนิเมชั่นยอดเยี่ยมถึง 4 ครั้งติดต่อกัน และอาย่ากับเหล่าแม่มด “EARWIG AND THE WITCH” ภาพยนตร์เรื่องล่าสุดของทางสตูดิโอก็ได้รับคัดเลือกสำหรับเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ปี 2020 อย่างเป็นทางการแล้วเช่นกัน