2-4 ก.พ. 67 ที่ มิวเซียมสยาม

– สัมผัสการชงกาแฟแบบญี่ปุ่นโดยเอกลักษณ์เฉพาะตัว

พร้อมกับการได้ชิมฝีมือการชงจากร้านกาแฟไทยที่ใช้อุปกรณ์การชงที่แตกต่างกัน

โดยใช้เมล็ดกาแฟไทยเป็นสื่อกลางในการชงกาแฟในครั้งนี้-

ขอเชิญร่วมงานเทศกาล “Japan Coffee Festival in Bangkok” ด้วยความร่วมมือระหว่างผู้จัดงาน Japan Coffee Festival (ญี่ปุ่น) และ Mother Roaster (ประเทศไทย) ในการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมกาแฟ ภายใต้แนวคิด “กาแฟไทยญี่ปุ่นทำ” โดยทาง Mother Roaster เป็นผู้ส่งกาแฟไทยสายพันธุ์อาราบิก้าจากทุกภูมิภาคของประเทศ อาทิ จันทบุรี เชียงใหม่ ตาก เชียงราย และกาแฟโรบัสต้าจากชุมพร กระจายไปยังร้านกาแฟในประเทศญี่ปุ่นรวม 10 ร้าน เพื่อคั่วเมล็ดตามสไตล์ของแต่ละร้าน ก่อนนำกลับมาชงให้ผู้ร่วมงานได้ชิมภายในงานที่กำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 2-4 กุมภาพันธ์ 2567 ณ มิวเซียมสยาม กรุงเทพฯ 

ป้าพิม – เพลินพิศ เรียนเมฆ ในวัย 70 ปี ผู้ก่อตั้งร้านกาแฟ Mother Roaster และหนึ่งในตัวแทนผู้จัดงาน “Japan Coffee Festival in Bangkok” กล่าวว่า Mother Roaster เป็นร้านกาแฟสัญชาติไทย ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากการดื่มกาแฟดำไม่เติมน้ำตาล มาตลอดระยะเวลาหลายปี ทำให้มีสุขภาพร่างกายแข็งแรง  หลังจากเปิดร้านกาแฟเพียงสัปดาห์แรกของการเริ่มต้น ก็โด่งดังจนกลายเป็นที่รู้จักในแวดวงนักดื่มกาแฟเป็นอย่างกว้างขวางทั้งในไทยและต่างประเทศ ปัจจุบันขยายสาขาไปถึง 5 สาขา และจากความมุ่งมั่นและตั้งใจในการส่งมอบกาแฟคุณภาพสู่กลุ่มนักดื่มกาแฟทำให้ทีมผู้จัดงาน  Japan coffee festival  ได้เชิญให้ไปร่วมชงกาแฟในงาน Japan coffee festival 2023 ที่เมืองโอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น จึงได้นำกาแฟไทยจากจังหวัดจันทบุรีไปชงและประสบความสำเร็จ ได้รับการต้อนรับอย่างดี เพราะเป็นร้านกาแฟไทยเพียงหนึ่งเดียวท่ามกลางร้านของประเทศญี่ปุ่นกว่า 30 ร้าน  ผู้จัดงานจึงมองเห็นศักยภาพของกาแฟไทย จึงได้ชักชวนให้เป็นผู้จัดงานกาแฟญี่ปุ่นในประเทศไทย เจ้าของร้าน Mother Roaster จึงได้คัดเลือกกาแฟไทยส่งไปให้ร้านที่ญี่ปุ่นออกแบบการคั่วตามแนวทางของแต่ละร้าน และนำกลับมาชงในงานกาแฟที่จะจัดขึ้น  ดัง Hashtag ที่ว่า #กาแฟไทยญี่ปุ่นทำ โดยการจัดงานในครั้งนี้ ทางทีมงานไทยยังได้ชักชวนร้านกาแฟของคนไทยจำนวน 12 ร้านทั้งในกรุงเทพและต่างจังหวัด โดยทุกร้านที่เข้าร่วมงานจะใช้วิธีการสกัดแบบแมนนวล ขณะเดียวกันยังได้รวบรวมแบรนด์ขนมหวานทั้งไทยและญี่ปุ่น โกโก้ ชาเขียว และไอศกรีม ฯลฯ เพื่อเปิดประสบการณ์และแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมการดื่มกินร่วมกัน

นอกจากนี้ ภายในงานยังมีกิจกรรมเสริมอีกหลายแขนง อาทิ ทริปเดินชมอาคารบ้านเรือน ทริปสอนถ่ายภาพเพื่อส่งเข้าประกวดพิเศษเฉพาะงานนี้เท่านั้น  ทริปปั่นจักรยานรอบเกาะรัตนโกสินทร์โดยทีมงาน better than walk ที่จัดทำเส้นทางพร้อมส่งไกด์และผู้เชี่ยวชาญด้านต่างๆ นำชมรวมถึงประกันชีวิตให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรมทุกท่าน ในยามค่ำยังมีกิจกรรมการขี่รถเวสป้าเพื่อท่องเที่ยวชมแสงสี ซึ่งทั้งหมดนั้นยังรวมถึงการการชมการชิมการเรียนรู้สิ่งรอบตัวท่ามกลางวัฒนธรรมที่หลากหลายของผู้อยู่อาศัยในย่านเก่าแก่แห่งนี้ ในแต่ละวันบนเวทียังมีการการแบ่งปันความรู้ด้านการชงกาแฟแบบญี่ปุ่นโบราณโดยชาวญี่ปุ่น  การพูดคุยเรื่องวัฒนธรรมกาแฟระหว่างสองประเทศ โดยมีศิลปินทั้งญี่ปุ่นและไทยร่วมบรรเลงดนตรี 

โดยผู้สนใจสามารถเข้าชมงานได้ฟรี! หากต้องการชิมรสชาติกาแฟภายในงาน สามารถซื้อบัตรได้ 2 แบบ ประกอบด้วย

  • บัตรรายวัน ราคา 250 บาท ใช้แลกกาแฟภายในงานได้ 2 แก้ว พร้อมกระเป๋า หนังสือที่ระลึก และสติกเกอร์ พร้อมหมุนกาชาปองรับของที่ระลึก อาทิ แก้วกาแฟหลากรูปแบบและขนาด ดริปเปอร์แบรนด์ญี่ปุ่น กระดาษดริป ฯลฯ
  • บัตรชุด 3 วัน ราคา 650 บาท ใช้แลกกาแฟภายในงานได้ 6 แก้ว พร้อมกระเป๋า หนังสือที่ระลึก

และร่วมลุ้นรางวัลใหญ่มูลค่ากว่าแสนบาท

สิทธิพิเศษเฉพาะผู้ซื้อบัตรชุด 3 วัน จำนวน 5 ชุด จะได้รับหนึ่งสิทธิ์ในการเลือกเข้าร่วมกิจกรรมพิเศษตามความชอบโดยสามารถระบุวันและรอบที่สนใจได้ทันที