นายแม่กุหลาบ แห่งหอบุปผชาติ “อิงฟ้า วราหะ” ควงคู่จิ้น “ชาล็อต ออสติน” เผยโมเมนต์น่ารักจากคู่แข่ง สู่คู่จิ้นสุดปังแห่งปี พร้อมเล่าเหตุการณ์ทำให้ทั้งคู่ทะเลาะกันจนถึงขั้นไม่มองหน้ากันมาแล้ว และวีรกรรมสุดแสบ เคลียร์ชัดๆ ชาล็อตจะหวนคืนสังเวียนนางงามจริงหรือไม่ ผ่านทางรายการคุยแซ่บshow ช่องOne31 ที่มี บูม สุภาพร และชมพู่ ธัณย์สิตา เป็นพิธีกรดำเนินรายการ

กระแสละครเป็นอย่างไรบ้าง?
อิงฟ้า : “โอ้โห ดีเกินคาดค่ะ คุ้มกับสิ่งที่เราทำไป บางกอกคณิกาเป็นกองที่เราค่อนข้างเหนื่อยในการเผื่อเวลา หน้าผม โปรดักชั่นต่างๆ สิ่งที่ได้รับกลับมามันหายเหนื่อยเป็นอย่างนี้นี่เอง”

ฉากเลิฟซีนกับพี่นก ฉัตรชัย?
อิงฟ้า : “เกร็งสุดๆ ค่ะ แต่ด้วยความที่พี่นกเวลาแสดงเขาเป็นระดับปรมาจารย์ ทำให้ทุกอย่างมันโฟลด์ จริงๆ จะมีการเซฟกันอยู่แล้วในบางฉากที่เราเล่นกัน แต่เห็นแบบนี้ แค่เทคสองเทคก็ผ่านแล้ว มันไปด้วยกันเร็วมาก”

ลึกๆ เขินก่อนเข้าฉาก?
อิงฟ้า : “เขินค่ะ(หัวเราะ) หนูไม่ได้คุยกับเขาเลย ไม่ใช่แค่หนู แต่น้องๆ ทุกๆ คนในกอง พี่นกมาเขาจะมีมุมของเขา ฟังเพลง อ่านหนังสือ เราอยากคุยนะ แต่เราเกรงใจเขา กลัวกวนเวลา แต่เวลาเข้าฉาก พี่นกก็น่ารักมาก บอกว่าเก่งนี่ เล่นได้นะ เขาจะมีให้กำลังใจเรา ชื่นชม ทำให้บรรยากาศน่ารัก มีมุมน่ารักของพี่นกเยอะมาก ขอทำมินิฮาร์ตหน่อย พี่นกเขาก็ทำอีกแบบ(หัวเราะ)”

ปะทะคารมกับพี่อ้อม?
อิงฟ้า : “หนูว่ามีเคมีบางอย่างที่ไม่น่าเป็นความบังเอิญที่ได้เล่นด้วยกัน ไม่ใช่พี่อ้อมคนเดียว เพราะเวลารับส่งกันทั้งเรื่อง ทั้งพี่ก้อย น้องชาเล็ท มันเป็นแม่เป็นพี่เราจริงๆ เวลาเล่น 5 4 3 2 เข้าฉากปุ๊บก็ไปพร้อมกันเลย รับส่งกันได้ดีมากๆ พี่อ้อมอยู่ในกองจะเป็นพี่ใหญ่คอยดูแลน้องๆ ฉากนี้สโมคเยอะเกินไปแล้วนะ ไม่มีใครกล้าพูดก็จะบอกว่าพี่อ้อมๆ สโมคเยอะเกินไป เขาก็จะตะโกนบอกว่า เฮ้ย เบาสโมคกันหน่อยนะเว้ย(หัวเราะ)”

ไม่กล้าพูดเอง แผนดี?
อิงฟ้า : “เขาน่ารัก บรรยากาศในการถ่ายทำเหมือนดูซีเรียส แต่เวลาพักทุกคนพักกันจริงๆ เฮฮา สนุกสนาน เป็นประสบการณ์ที่ดีค่ะ”

มีคนทักมั้ยว่าบางมุมหน้าคล้ายพี่อ้อม?
อิงฟ้า : “มีค่ะ หนูก็มาดู มีอันนึงที่คล้ายมาก ช่วงที่เราใส่แฮร์พีชสั้น แล้วคนเอามาเทียบกับพี่อ้อมตอนผมสั้น มีบางมุมที่คล้าย มุมร้องไห้จะคล้ายๆ ก็มี”

ชาล็อตเห็นแล้วเป็นยังไง?
ชาล็อต : “ทึ่งกับการแสดงของพี่ฟ้า ไม่เคยเห็นบทที่แรงขนาดนี้มาก่อน เราเคยร่วมงานกันตอนที่ถ่ายแรกๆ จะเป็นความรักใสๆ แต่นี่ถ้าไม่รู้เหมือนคนทำงานในวงการมานานแล้ว อินเนอร์ด้วย ท่าทาง วิธีการแสดง คำพูด น้ำเสียง ดูเป็นมืออาชีพมากๆ”

ชอบฉากไหน?
ชาล็อต : “หนูชอบตอนที่ไปช่วยเทียนหยด ตอนเทียนหยดจะเสียพรหมจรรย์ เป็นอะไรที่จึกในใจ มันเจ็บจริงๆ นะ จากที่ดูๆ มา อินเนอร์ถึงอารมณ์ พี่อิงฟ้าเก่งมากๆ อยากให้มีการแสดงในวงการอีกเยอะๆ เพราะเชื่อว่าเขาน่าจะสามารถดึงตัวละครออกมาได้ รอดูผลงาน จะมีอีกเรื่องด้วย และมีอีกหลายๆ เรื่องด้วย”

สปอยล์อีก 2 อีพี?
อิงฟ้า : “ทุกวันนี้เวลาคนเจอหนู ปกติจะถามเรื่องงาน ทุกวันนี้ถามว่าสรุปใครคือลูกแม่ราตรี แม้แต่ตอนไปอเมริกาซึ่งคนไทยที่โน่นก็ดู บอกได้เลยว่าอีก 2 อีพีสุดท้ายวันพรุ่งนี้ก็จะคลี่คลายปมทุกอย่างที่ทุกคนสงสัยกันมานานว่าใครเป็นลูกใคร ปมเกิดจากอะไรบ้าง อย่างที่บอก 8 อีพีแทบไม่มีน้ำ เนื้อล้วนๆ แน่นๆ อีพี 7 8 ก็ฝากด้วยจุดจบหอบุปผชาติและบางกอกคณิกาจะเป็นยังไง ฝากด้วยแล้วกันค่ะ”

ชาล็อต : “สรุปได้เที่ยวรอบโลกมั้ย”

อิงฟ้า : “ไม่บอก ให้รอลุ้น”

ได้เล่นละครด้วยกันเรื่องอะไร?
อิงฟ้า : “LoveBully รักให้ร้ายค่ะ”

เป็นแนวไหน?
อิงฟ้า : “ตามชื่อเลยค่ะ จะมีดราม่าอีกหนึ่งก้าวการแสดงของพวกเราเป็นวัยที่โตขึ้น การเล่าเรื่องเข้มข้น แม้จะมีแค่ 4 ตอน แต่ละอีพีอัดแน่น น่าจะถูกใจแฟนคลับพอสมควรสำหรับรักให้ร้ายที่จะได้ดูกันในวันที่ 7 มิ.ย.”

มีแค่ 4 อีพี แต่เข้มข้นมากๆ?
อิงฟ้า : “น่าจะเป็น 4 อีพีที่ถูกใจแฟนคลับอิงล็อตแหละ เพราะแฟนคลับก็รอผลงานคู่ อยากเห็นพัฒนาด้านการแสดงละครต่างๆ อันนี้ก็น่าจะตอบโจทย์”

ชาล็อตลงทุนไปเรียนการแสดง เรียนเอง ออกค่าใช้จ่ายเอง?
ชาล็อต : “ใช่ พออยู่จุดนี้ก็อยากพัฒนาไปเรื่อยๆ อยากแสดงให้คนชมเรา ตอนแรกคิดว่าการแสดงมันง่าย แต่จริงๆ มันไม่ง่ายเลย พอได้เริ่มเล่นปุ๊บดูตัวเองแล้วไม่ถูกใจ อยากมีอินเนอร์อย่างนี้แหละถูกแล้วก็เลยไปเรียนการแสดงดีกว่า เพื่อจะได้มีทักษะและสกิลในเรื่องต่อๆ ไปที่กำลังจะเข้ามาค่ะ”

พัฒนาการของชาล็อตเป็นยังไง?
อิงฟ้า : “ถ้าเทียบกับเรื่องแรกที่เราเล่นด้วยกัน ก็พัฒนาไปเยอะเลย อาจด้วยเรื่องนี้ความโชคดีของเราได้ผู้กำกับพี่กอล์ฟ ที่เขารายละเอียดดีเทลมากๆ ไม่ปล่อยผ่านซีนไหนที่รู้สึกว่ามันยังไม่ถึง อย่างของน้องที่ทีเซอร์ออกมา ได้รับผลตอบรับที่ดีมากๆ คิดว่าน่าจะเป็นอีกหนึ่งกำลังใจทำให้เขาพัฒนาต่อไป เรื่องนี้เรายังถ่ายไม่เสร็จ ก็ต้องกลับไปถ่ายต่อ คิดว่าน่าจะได้กำลังใจก้อนใหญ่ๆ กันต่อ”

จากคู่แข่งเป็นคู่จิ้น อะไรทำให้กลายมาเป็นคนสนิทกัน?
อิงฟ้า : “มันเริ่มจากการที่เราประกวดมิสแกรนด์ไทยแลนด์ ในปี 2022 หนูเป็นตัวแทนมิสแกรนด์กรุงเทพฯ น้องมิสแกรนด์ชุมพร ก็มีการได้เป็นรูมเมทกันต่างๆ มีโมเมนต์น่ารักๆ ออกมา ทำให้มีอิงล็อตเกิดขึ้น หลังจากจบการประกวดไป มีงานเข้ามา พอมีพรีเซ็นเตอร์ตัวแรก ภาพที่เราออกอีเวนต์ด้วยกันที่เซ็นทรัลเวิลด์ คนเยอะมากจนเราตกใจ ตอนแรกเราอยู่ในกองเราไม่รู้ว่าแฟนคลับเรามากน้อยแค่ไหน แต่พอออกอีเวนต์ครั้งแรกคนเยอะมาก ก็คิดว่าน่าจะเป็นอะไรที่แปลกใหม่สำหรับวงการนางงาม”

เธอเป็นสายเต๊าะเขา เคยคิดจริงบ้างมั้ย?
อิงฟ้า : “มีช่วงโมเมนต์ที่มีความรู้สึกแบบนั้นขึ้นมา แต่ว่าด้วยความที่พออยู่ด้วยกัน ทำงานด้วยกันบ่อยมากๆ เวลาทำงานนอกสถานที่ก็จะมีเวลาได้นอนด้วยกัน เป็นรูมเมทในกองจนถึง ณ ปัจจุบัน ก็มีบ้างที่รู้สึกหวั่นไหวนิดนึง แต่ ณ ปัจจุบันรู้สึกว่า (หัวเราะ)”

หวั่นไหวกับชาล็อตยังไง?
อิงฟ้า : “หนูว่าด้วยความที่เราอยู่ใน LGBTQ ที่เราคบได้ทุกเพศ เวลานั้นจะคบใครก็ไม่ได้ดูเรื่องของเพศแล้ว ดูที่ความสบายใจ ความแฮปปี้ของเรา มีช่วงนึงเราอยู่ด้วยกันบ่อยๆ จะมีหวั่นไหวนิดนึง ด้วยความน่ารักหรืออะไรก็ตาม มีช่วงนึงที่เกิดขึ้น”

น้องเป็นสายอ้อน แกล้งพี่ เราหวั่นไหวยังไง?
ชาล็อต : “ตอนทำงานเขาจะเป็นฝ่ายดูแลเราซะมากกว่า จะมีขนม มีการให้เราระวังโน่นนี่นั่น กระโปรงกันโป๊ต่างๆ ซึ่งได้รับการดูแลที่รู้สึกว่าไม่รู้พิเศษกว่าคนอื่นมั้ย แต่เราก็คิดไปในทางนั้น เราคิดว่าคงไม่ได้ชอบเขาหรอก เพราะพูดตรงๆ เมื่อก่อนหนูไม่ได้ชอบผู้หญิง ไม่ได้มองผู้หญิง แต่พอได้ทำงานไปเรื่อยๆ เริ่มลึกไปเรื่อยๆ เริ่มมีการสกินชิพมากขึ้น โดนตัว กอด หอมแก้มมากขึ้น รู้สึกว่าเริ่มแปลกๆ อารมณ์เหมือนเราชอบใครสักคนนึงเลย ก็คงชอบจริงๆ นั่นแหละ แต่คงไม่ได้ไปถึงจุดนั้น คิดว่าอยู่อย่างนี้ดีแล้ว ถ้าเป็นแฟนกัน คงตีกันตาย (หัวเราะ)”

ถ้าไปถึงจุดนั้นคิดว่ารอดมั้ย?
อิงฟ้า : “จริงๆ เคยลองแล้ว อาจไม่ได้ออกมาพูดเป็นทางการ มาบอกทุกคนว่าเราเคยเหมือนถลำไปถึงตรงนั้นนะ ไม่รู้ต้องใช้คำไหน(หัวเราะ) เราเคยบอกแฟนคลับนะ”

ชาล็อต : “มีจังหวัดนึงที่หนูไม่เคยได้คำตอบจากเขาเลยว่าหนูทำอะไร เขาก็ไม่บอกด้วย ก็โอเค แต่ยังค้างคาใจจนถึงทุกวันนี้ ต่อให้เป็นสิบปีหนูก็ค้างคาใจว่าเรื่องอะไร”

อิงฟ้า : “ไม่อยากบอก เก็บไว้คนเดียวดีกว่า”

มันคืออะไร ความลับของคุณ?
อิงฟ้า : “จริงๆ ไม่มีอะไร แค่เหมือนเขาดื่ม แล้วเขาจำไม่ได้ว่าคืนนั้นเขาทำอะไรเราหรือเปล่า (หัวเราะ)”

ทำมั้ย?
ชาล็อต : “หนูไม่รู้จริงๆ แต่คงไม่ถึงขั้นนั้นหรอกเนอะ”

อิงฟ้า : “ไม่ถึงขั้นนั้นค่ะ (หัวเราะ)”

หรือแอบเผยความในใจ?
ชาล็อต : “หนูก็ไม่รู้เหมือนกัน (หัวเราะ)”

คนเดียวที่รู้คืออิงฟ้า?
อิงฟ้า : “ใช่”

เคยลองอยู่จุดนั้น ณ โมเมนต์นั้นเป็นไงบ้าง?
อิงฟ้า : “หนูว่าพอความเป็นพี่น้องกันมันจะมีบางอย่างที่เรามีสเปซให้กัน แต่พอมุมมองความรักที่จะเป็นแฟนจริงๆ เขาจะรู้ว่าไทป์เขาประมาณนี้ ไทป์เราชอบคนประมาณนี้ มีหลายช่วงที่จะลองเปิดใจให้กันและกัน แต่มันก็อยู่ถึงจุดที่คิดว่าไม่ดีกว่า ไม่ได้มีใครผิดใครถูกนะ เป็นเรื่องความรู้สึกที่เรารู้สึกว่าถ้าเกิดปัญหานี้ปุ๊บมันจะทำงานกันลำบาก เราต้องทำงานด้วยกันอีกยาว ด้วยอายุสัญญาที่เราอยู่ด้วยกัน พอเป็นมุมความรู้สึกที่เป็นอิงล็อตมันก็คือดีแล้ว แฟนคลับก็น่าจะรู้ได้ถึงความธรรมชาติ เวลาเราทะเลาะกันคนก็น่าจะดูออกว่าเราไม่คุยกัน มันเฟกใส่กันยากมาก เราเก็บอาการไม่เก่ง เขาก็เก็บอาการไม่เก่งเช่นเดียวกัน”

เราคุยกันเหรอว่าสถานะเป็นอย่างนี้?
ชาล็อต : “ถ้าจุดเปลี่ยนก็คุยกันตรงๆ”

ตอนนี้เป็นพี่น้องที่เอาใจใส่กันเหมือนเดิม คบกันไม่น่ารอด ทะเลาะกันเรื่องความสวย?
อิงฟ้า : “ก็มีบ้าง”

ชาล็อต : “อย่างตอนนี้ก็พยายามเบี่ยงฝั่งเดียวกันอยู่ ไม่ได้โกรธกันนะ แต่เราสวยมุมเดียวกัน มันเป็นเรื่องหยุมหยิม”

อิงฟ้า : “บางทีเราจะมั่นใจมุมเดียวกัน เวลาถ่ายรูปก็จะเป็นแบบสวยซ้าย ฟีลนั้น”

ยอมกันมั้ย?
อิงฟ้า : “สลับบ้าง”

ชาล็อต : “แต่พอนานๆ ก็ปล่อย”

อิงฟ้า : “ไม่ได้ร้ายแรง”

เคยไม่ยอมกันถึงขั้นไม่มองหน้า?
อิงฟ้า : “ช่วงนี้ด้วยก็ได้นะ (หัวเราะ) มันมีสองอย่างบางเรื่องที่เราไม่มองหน้า ไม่คุยกัน เราทั้งคู่ไม่รู้เหมือนกันว่าเรื่องอะไร บางทีมาเจอกัน ทั้งคู่ไม่พร้อมจะคุยกันเองมากกว่า เหมือนไม่มีใครเข้ามาคุย บอกไม่ถูก กับอีกเรื่องเป็นเรื่องที่เราไม่สามารถพูดได้ เป็นเรื่องส่วนตัวไม่ได้บอกแฟนคลับว่าเราสองคนมีเรื่องอะไรในใจกัน มันก็พูดไม่ได้ มีสองแบบ”

เวลามีปัญหา ใครง้อใครก่อน?
อิงฟ้า : “ไม่เชิงง้อ มองหน้ากันแล้วก็พูดกัน”

มีนิดๆ ในใจ?
อิงฟ้า : “พร้อมเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา ซึ่งเป็นกับเขาคนเดียวด้วยนะ กับคนอื่นไม่เป็น เขาก็ไม่เป็นกับใคร เป็นกับหนูนี่แหละ”

ชาล็อต : “วันนี้เกือบใส่ชุดเหมือนกันนะ เราชอบมีความแต่งตัวคล้ายๆ กันหรือเหมือนกัน โดยไม่ได้นัดกัน”

อิงฟ้า : “หนูก็เกือบใส่ชุดนี้มา ซึ่งไม่ได้นัดกัน เหมือนตอนไปมีตติ้งที่อเมริกา เป็นทรงเดียวกัน ลงมารองเท้าเหมือนกัน รองเท้าคล้ายกัน”

ไปทัวร์คอนเสิร์ตที่อเมริกา แฟนมีตที่อเมริกา แฟนคลับให้การตอบรับดีมาก?
อิงฟ้า : “ดีเลยค่ะ มีอีกหลายโมเมนต์ แฟนคลับที่โน่นเขาจะเป็นฟีลฉันชอบคุณจริงๆ นะ อยากให้คุณมีความสุข อย่างเรื่องเล็กๆ น้อยๆ เขารู้ว่าเราเซ้นซิทีฟเรื่องครอบครัว ของขวัญต่างๆ ที่เขาให้เราก็จะเป็นของทำมือที่เขาตั้งใจทำ มีหมาเรา มีพ่อเราใส่เข้าไป เป็นอะไรที่น่ารัก”

แฟนคลับสักอะไร?
อิงฟ้า : “สักเป็นหน้าเราใส่มงกุฎลงไป หน้าหนูจะหลอกหลอนเขาไปตลอดถ้าเขาไม่แก้(หัวเราะ)”

ตอนเราเห็น รู้สึกยังไง?
อิงฟ้า : “หนูช็อกเลยค่ะ ก็ตกใจว่าเฮ้ย ปกติมีอยู่แล้วคนสักรูปเราหน้าเรา แต่ไม่ได้ใหญ่ขนาดนี้ แต่อันนี้ใหญ่จริง ก็ตกใจ”

ไปหลายวัน มีคนงอแง?
อิงฟ้า : “น่าจะเป็นเรื่องอาหาร ที่นิดนึง ด้วยความที่ไป 16 วันได้สปอนเซอร์ที่โน่นเป็นร้านอาหารไทยหมดเลย ไปถ่ายรูป ทานข้าว ซึ่งตัวชาเองเขาอยากทานอะไรที่ไม่ใช่อาหารไทยบ้าง (หัวเราะ)”

ชาล็อต : “หนูบอกโอเคไปกินของสปอนเซอร์ก่อน แล้วใครก็ได้ไปซื้อเบอร์เกอร์มาให้หน่อยได้มั้ย หรือซื้ออาหารทางบ้านเขา โลคอลฟู้ดส์ อะไรแบบนี้”

พ่อแม่ชาล็อตแยกทางกัน เราขาดความอบอุ่นมั้ย?
ชาล็อต : “หนูโตมากับพ่อที่เป็นทหารและคุณตาที่เป็นนักมวย จะไม่ได้ถูกทรีตเป็นเจ้าหญิงสักเท่าไหร่ จะมีความห้าวๆ ถึงไหนถึงกัน มีความแข็งกระด้างนิดนึง แต่ในใจลึกๆ ก็มีโหยหาเรื่องความอ่อนโยน ความรักนิดนึง ดังนั้นเวลาเห็นหนูอยู่กับแฟนคลับ หนูจะทำตัวเป็นเด็กๆ เวลาเราเห็นคนรักเรามากๆ เราก็รู้สึกว่าแค่นี้ที่เราต้องการจริงๆ โหยหาเล็กๆ น้อยๆ แต่ไม่ใช่ว่าพ่อกับแม่ไม่ให้นะ เขาก็ให้เพียงแต่ตอนนี้เรารู้สึกว่าเราใกล้ชิดกับพ่อแม่มากกว่าเดิมเวลาเราอยู่ห่างกับพ่อแม่ เราต้องการอยู่ด้วยตลอดเวลาตอนนี้แม่อยู่ต่างประเทศ พ่ออยู่ภูเก็ต ที่นี่หนูอยู่คนเดียว ล่าสุดกลับจากอเมริกา ซื้อบ้านด้วยตนเอง บ้านก็ปิดไฟมืด รู้สึกกลับมาบ้านแล้วเหงาจังเลย ไม่มีใครรออยู่ที่บ้าน ไม่ได้อยู่กับพ่อแม่ หรือไม่ได้มีพี่น้องอยู่ด้วย มีแค่ตัวเรา รู้สึกว่าไม่มีใครรอที่บ้านเลย มันก็ไม่ได้แย่นะ แค่มีความแว้บๆ เข้ามา”

เหมือนเหงาๆ เคว้งๆ ถ้ามีสถานะหัวใจที่ดีก็อาจตอบโจทย์ตรงนี้?
ชาล็อต : “ตอนนี้หัวใจหนูก็เต้นปกติดีค่ะ (หัวเราะ)”

โดนห้ามเหมือนพี่อิงฟ้าหรือเปล่า?
ชาล็อต : “ไม่ได้ห้าม แต่ให้ดูว่าช่วงไหนเหมาะสมที่จะมีหรือไม่มี ตอนนี้เราก็อายุ 25 ก็โฟกัสงานไปก่อน”

กี่ปีที่ในสัญญาว่าอย่าเพิ่งมีคนดูแลหัวใจ?
อิงฟ้า : “ของหนูไม่ได้มีในสัญญา แต่จะเป็นการพูดบอกกันเฉยๆ เขาไม่เคยบอกกับหนูโดยตรง นอกจากเขาไปออกรายการ สัญญาหนู 7 ปี ก็เหลืออีก 5 ปี”

หวนคืนสังเวียนประกวดจริงหรือเปล่า?
ชาล็อต : “ถ้าหนูบอกไปคนจะมาประกวดมั้ยล่ะ”

ประกวดมิสแกรนด์อีกครั้ง?
ชาล็อต : “มีสิทธิ์ค่ะ แต่รอบนี้เราต้องมั่นใจว่าเราจะไม่ได้แค่มงฯ ประเทศไทย เราอยากได้มงฯ อินเตอร์ เพื่อต่อยอดเราไปในเส้นทางที่มากขึ้นและกว้างขึ้นค่ะ”

กลับมาประกวดอีก จะโดนครหาว่าเป็นเด็กบอสณวัฒน์?
ชาล็อต : “จริงๆ หนูมีความพยายามนะ มีประสบการณ์ ได้อยู่ในวงการ ได้ทำงานมากมาย ก็รู้สึกว่าไม่แปลกถ้าเราพยายามเต็มที่แล้วไม่ค้านสายตาคนที่เราจะได้มงฯ ก็ถือว่าเป็นการกลับมาทำให้ตัวเองไปในเส้นทางที่อยากไปจริงๆ”

รุ่นพี่แนะนำหน่อย?
อิงฟ้า : “คงแนะนำเหมือนน้องๆ ทั่วไป ให้เขาทำให้เต็มที่ สุดท้ายคนดูจะตัดสินเองว่าเราจะไปต่อได้ตรงไหน เป็นกำลังใจให้เสมอ เป็นกำลังใจให้เต็มที่”

อยากบอกอะไรแฟนคลับ?
ชาล็อต : “ก็ขอบคุณแฟนคลับทุกคนที่คอยติดตาม คอยซัพพอร์ตเราสองคน อยากให้อยู่แบบมีความสุขแบบนี้”

อิงฟ้า : “น่าจะรู้อยู่แล้วว่าอยู่ความสัมพันธ์แบบไหน คิดถึงมากๆ ค่ะ เพราะเพิ่งกลับมาจากอเมริกา หลังจากนี้มีงานอะไรถ้าเป็นไปได้อยากให้มาเจอกัน คิดถึงก็มาเจอกันนะคะ”