“ไวด์ เฟธ ฟู้ด” ผู้ผลิตและจัดจำหน่าย “ไรซ์ บัดดี้ (Rise Buddy)” ขนมข้าวแผ่นอบกรอบจากข้าวไทยที่โด่งดังในตลาดโลก รุกตลาดสแน็คไทยมูลค่ากว่า 40,000 ล้านบาท เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ “ไรซ์ บัดดี้ ไรซ์ ซิปปี้ส์ (Rise Buddy Rice Chippies)” ดึง “นนกุล – ชานน สันตินธรกุล” ขึ้นแท่นพรีเซนเตอร์คนแรก ตัวแทนคนยุคใหม่ที่ช่างเลือกและใส่ใจสุขภาพ พร้อมเปิดตัวภาพยนตร์โฆษณา “Rice Chippies-Verse” เพื่อสร้างการรับรู้และถ่ายทอดแบรนด์ “ไรซ์ บัดดี้ ไรซ์ ซิปปี้ส์” ขนมข้าวแผ่นอบกรอบเทรนด์ใหม่ของคนรักสุขภาพ และเป็นเทรนด์ขนมแห่งอนาคตที่อร่อยไปทุกจักรวาล ยกระดับความกรอบ…อร่อย ชูนวัตกรรมขนมข้าวแผ่นอบกรอบในรูปแบบ Chippies เจ้าแรก ผลิตจากข้าวไทย อบไม่ทอด ไม่มีไขมันทรานส์ แคลอรี่ต่ำ ไม่มีกลูเตน ไม่ใส่ผงชูรส ได้รับการรับรองมาตรฐานฮาลาล พร้อมแนะนำ 4 รสชาติใหม่ ได้แก่ บีบีคิว (BBQ) ซาวร์ครีมแอนด์ออเนี่ยน (Sour Cream & Onion) ซีซอลท์ (Sea Salt) และชีส (Cheese) ปูพรมช่องทางขายครอบคลุมทั้งแพลตฟอร์มออนไลน์มาร์เก็ตเพลส Shopee Lazada TikTok และรถ Yummy Truck ที่เสิร์ฟความอร่อยไปทั่วประเทศ พร้อมขยายช่องทางขายในร้านซูเปอร์มาร์เก็ตชั้นนำต่างๆ โดยตั้งเป้ายอด 250 ล้านบาทในปี 2569
นายโอลิเวอร์ เย้ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไวด์ เฟธ ฟู้ด จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่าย ไรซ์ บัดดี้ (Rise Buddy) ขนมข้าวแผ่นอบกรอบจากข้าวไทย เผยว่า บริษัทฯ เป็นผู้นำในการผลิตและพัฒนาขนมขบเคี้ยวจากข้าวไทยในตลาดโลกมากว่า 22 ปี ด้วยความเชี่ยวชาญในออกแบบ การวิจัย และพัฒนาขนมข้าวแผ่นอบกรอบอย่างมืออาชีพ รวมถึงการนำเทคโนโลยีขั้นสูงที่ได้มาตรฐานในระดับสากลมาใช้ในกระบวนการผลิต โดยผลิตภัณฑ์ขนมขบเคี้ยวจากข้าว ของ ไวด์ เฟธ ฟู้ด มีหลากหลายแบรนด์ซึ่งอยู่ภายใต้แบรนด์แม่ Master Rice ไม่ว่าจะเป็น Rise Buddy, Ravin, Bio-Earth และ Kiddie Kare โดยผลิตภัณฑ์แต่ละแบรนด์ได้รับพัฒนาให้มีความอร่อยที่มาพร้อมกับสุขภาพที่ดี ใช้กรรมวิธีการอบ ไม่ทอด ไร้ไขมันทรานส์ ไม่มีกลูเตน ไม่ใส่ผงชูรส ได้รับการรับรองมาตรฐานฮาลาล เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า และตอบโจทย์กระแสด้านสุขภาพ โดยผลิตภัณฑ์แต่ละแบรนด์ของ ไวด์ เฟธ ฟู้ด มีวางจำหน่ายครอบคลุมทั่วโลก รวมถึงทางฝั่งตะวันตกของสหรัฐอเมริกา ยุโรปตะวันออกและยุโรปเหนือ ฝรั่งเศส และเอเชียแปซิฟิก ได้แก่ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ มาเลเซีย ไต้หวัน และฟิลิปปินส์ นอกจากนี้ บริษัท ฯ ยังรับผลิตขนมแผ่นอบกรอบจากข้าวในรูปแบบ ODM หรือ Original Design Manufacture ออกแบบและผลิตสินค้าให้กับบริษัทต่างๆ ซึ่งมีให้เลือกมากกว่า 70 รสชาติ โดยมีกำลังการผลิตและส่งออกสู่ตลาดโลก รวม 18,900 ตัน / ปี จากฐานการผลิตในประเทศไทยทั้งหมดทั้ง 2 แห่ง พื้นที่กว่า 47 ไร่ โดยโรงงานของ ไวด์ เฟธ ฟู้ด ได้รับการรับรองเกรด AA จาก BRCGS และ ISO9001:2015 รวมถึงได้รับการรับรองจาก Gluten Free และ Halal
นายโอลิเวอร์ กล่าวเสริมว่า สำหรับในประเทศไทย มูลค่าตลาดขนมขบเคี้ยวมีมูลค่ารวมกว่า 40,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นตลาดที่ใหญ่และเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยหากวิเคราะห์ถึงเซกเม้นต์ตลาดขนมที่ทำจากข้าวมีมูลค่าตลาดรวมกว่า 2,000 ล้านบาท บริษัทฯจึงมุ่งเน้นทำการตลาดแบรนด์ ไรซ์ บัดดี้ (Rise Buddy) ในประเทศไทยเป็นหลัก ในตลาดการส่งออกการตลาด Rice Snack มีส่วนแบ่งการตลาด 15,000,000 ดอลลาร์สหรัฐ (USD) หรือ 36% ในออสเตรเลีย และ ในนิวซีแลนด์ด้วยส่วนแบ่งการตลาด 5,000,000 ดอลลาร์สหรัฐ (USD) หรือ 45% โดยมีมูลค่า Rice Snack ส่งออกในตลาดลาดโลกมีมูลค่าถึง 30,000,000 ดอลลาร์สหรัฐ (USD)
และในปีนี้บริษัทฯ มีแผนรุกตลาดในประเทศไทยอย่างเต็มที่ ทั้งการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ การเลือกใช้พรีเซนเตอร์และขยายช่องทางการจัดจำหน่ายที่ครอบคลุมทั่วประเทศไทย เนื่องจากเล็งเห็นโอกาสการเติบโตของตลาดขนมอบกรอบที่ทำจากข้าว และเทรนด์ผู้บริโภคยุคใหม่ที่ช่างเลือกและมองหาขนมที่ทานแล้วดีต่อสุขภาพ ทานแล้วไม่รู้สึกผิดและส่งผลเสียต่อสุขภาพในระยะยาว จึงได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ “ไรซ์ บัดดี้ ไรซ์ ซิปปี้ส์ (Rise Buddy Rice Chippies)” ชูนวัตกรรมขนมข้าวแผ่นอบกรอบในรูปแบบ Chippies ที่ผลิตจากข้าวไทยเจ้าแรกในตลาด ด้วยนวัตกรรมกรรมการขึ้นรูปขนมที่ผลิตจากข้าวในรูปแบบแผ่นคล้ายมันฝรั่ง ซึ่งเป็นแบรนด์แรกในเซกเม้นต์ตลาดขนมที่ทำจากข้าว ผ่านกรรมวิธีการผลิตด้วยการอบแทนการทอด ไม่มีไขมันทรานส์ เพื่อสุขภาพที่ดีกว่า ตอบโจทย์คนทั่วไปที่รักการบริโภคขนมที่ต้องการความอร่อยที่มาพร้อมกับสุขภาพที่ดี โดยเฉพาะในกลุ่มวัยรุ่น วัยทำงาน อีกทั้งยังไม่ใส่ผงชูรส ไม่มีกลูเตน ได้รับการรับรองมาตรฐานฮาลาล พร้อมเปิดตัวพรีเซนเตอร์คนแรก “นนกุล – ชานน สันตินธรกุล” ตัวแทนคนยุคใหม่ที่ช่างเลือกและใส่ใจสุขภาพและเปิดตัวภาพยนตร์โฆษณาภายใต้คอนเซ็ปต์ “Rice Chippies-Verse” เพื่อสร้างการรับรู้และถ่ายทอดแบรนด์ “ไรซ์ บัดดี้ ไรซ์ ซิปปี้ส์” ขนมข้าวอบกรอบเทรนด์ใหม่ของคนรักสุขภาพ และจะเป็นเทรนด์ขนมแห่งอนาคตที่อร่อยไปทุกจักรวาล ยกระดับความกรอบ…อร่อย กับ 4 รสชาติใหม่ ได้แก่ บีบีคิว (BBQ) ซาวร์ครีมแอนด์ออเนี่ยน (Sour Cream & Onion) ซีซอลท์ (Sea Salt) และชีส (Cheese) โดยวางจำหน่ายในขนาด 60 กรัม ราคา 39 บาท
ส่วนช่องทางจัดจำหน่าย บริษัทฯ มุ่งเน้นการกระจายสินค้าอย่างเต็มรูปแบบ เน้นปูพรมช่องขายทั้งในออนไลน์ และออฟไลน์ โดยช่องทางออนไลน์เน้นขายผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์มาร์เก็ตเพลสอย่าง Shopee Lazada และช่องทางอีคอมเมิร์ซ TikTok โดยเจาะกลุ่มลูกค้าที่ไม่มีเวลาไปซื้อสินค้านอกบ้าน และในส่วนออฟไลน์เน้นกระจายสินค้าในร้านซูเปอร์มาร์เก็ตชั้นนำทั่วประเทศ โดย ไวด์ เฟธ ฟู้ด วางเป้าหมายว่าจะเข้าไปเป็นหนึ่งในคู่แข่งตลาดสแน็คไทยที่มีมูลค่ากว่า 40,000 ล้าน โดยบริษัทฯ หวังแชร์ส่วนแบ่งยอดในตลาดขนมที่ทำจากข้าว 250 ล้านบาท ในปี 2569 และก้าวไปสู่ความเป็นแบรนด์และผู้จัดจำหน่ายชั้นนำของอุตสาหกรรมขนมขบเคี้ยวที่ตอบโจทย์เทรนด์ด้านสุขภาพทั่วโลก ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Better for You” นายโอลิเวอร์ เย้ กล่าวทิ้งท้าย