กระแสบอกต่อความสนุกยังคงมาแรงอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดค่าย “จีดีเอช” ร่วมกับ “ใจ สตูดิโอ” จัดงาน “วิมานหนาม ฮักเจ้าหลาย..มุ่งสู่รายได้ 150 ล้าน” ขึ้น ณ โรงภาพยนตร์ เอส เอฟ เวิลด์ ซีเนม่า ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ เพื่อเฉลิมฉลองรายได้ของภาพยนตร์เรื่อง “วิมานหนาม” ที่กำลังพุ่งทะยานสู่ 150 ล้านบาท โดยในงาน “เจฟ ซาเตอร์, อิงฟ้า วราหะ, เก่ง หฤษฎ์” ขึ้นเวทีขอบคุณคนดูทุกคนที่ทำให้เกิดปรากฏการณ์อินเกินต้านคนแห่ดูเต็มโรงแน่นรอบ เริ่มต้นงานด้วยพิธีกรมากความสามารถ เติ้ล กิตติภัค ทองอ่วม เปิดเวทีด้วยการสร้างเมจิกโมเมนต์ทำให้คำอธิษฐานของใครหลายคนเป็นจริง กับโชว์สุดพิเศษในเพลง “เหมือนวิวาห์” จาก 2 หนุ่มเสียงทรงพลัง เจฟ และ เก่ง เรียกว่าถูกอกถูกใจแฟนๆ อย่างหนักถึงขั้นส่งเสียงกรี๊ดดังสนั่นเลยทีเดียว จากนั้นพี่สาวสุดที่รักในเรื่องอย่าง อิงฟ้า ก็ขอคว้าไมค์มาอวยพรให้กับความรักของทั้งคู่ในเพลง “คำยินดี” ก่อนที่ทั้ง 3 คนจะร่วมพูดคุยถึงกระแสตอบรับที่ดีเกินคาด พร้อมขอบคุณคนดูทุกคนที่ให้ความสนใจ และทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้เดินทางมาไกลถึงจุดนี้ จากนั้นถึงคิวปิดท้ายงานด้วยการถ่ายภาพร่วมกัน นำโดย คุณปรียาวรรณ ภูวกุล ผู้อำนวยการฝ่ายจัดจำหน่ายในโรงภาพยนตร์และที่ปรึกษาด้านลิขสิทธิ์ บริษัท จีดีเอช ห้าห้าเก้า จำกัด, คุณพิมสิริ ทองร่มโพธิ์ กรรมการผู้จัดการ ใจ สตูดิโอ และ นักแสดง เรียกว่างานในวันนี้เป็นบรรยากาศของความประทับใจที่ทุกคนจะได้เก็บเกี่ยวความทรงจำที่แสนพิเศษไป พร้อมกัน
ด้าน เจฟ เผยว่า “ตอนแรกไม่คิดว่าหนังเรื่องนี้จะทำรายได้มาไกลถึงขนาดนี้ เป็นเพราะทุกคนเลยจริงๆ ครับ ขอบคุณคนดูมากๆ ที่ทำให้เกิดปรากฏการณ์คนดูเต็มโรงแน่นรอบ คือต้องบอกเลยว่าเป็นหนังที่อาศัยกระแสการบอกต่ออย่างรุนแรงเลย คือคนที่ไปดูกันมาก็มารีวิวต่อแบบปากต่อปาก ผมก็ไปไล่อ่านคอมเมนต์ที่เขารีวิวในโซเชียลตลอด ดีใจและมีความสุขมากครับที่ทำให้คนดูอินไปกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นในหนัง ที่สำคัญผมมองว่าผลงานที่พวกเราตั้งใจทำออกมาให้ดีที่สุด เป็นคำตอบของความสำเร็จในวันนี้ ซึ่งคำว่าเดินทางสู่ 150 ล้าน เป็นเหมือนกับรางวัลที่ทำให้พวกเราทั้งทีมงานและนักแสดงทุกคนรู้สึกภูมิใจมาก นอกจากนั้นหนังเรื่องนี้ก็กำลังจะเดินทางไปมอบความสนุกเข้มข้น และสะท้อนมุมมองความไม่เท่าเทียมที่เกิดขึ้นในสังคมในอีกหลายประเทศแทบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมทั้งออสเตรเลียและนิวซีแลนด์อีกด้วยครับ”
ส่วน อิงฟ้า เสริมว่า “ดีใจและเหนือความคาดหมายมากค่ะ เพราะว่าจริงๆ แล้วแอบหวังเล็กๆ ว่าอยากจะให้วิมานหนามไปได้ไกลที่สุด เพราะจริงๆ แล้วหนังเรื่องนี้ คนไม่ได้แกะรหัส แค่เรื่องของความสำคัญของตัวละคร แต่เนื้อเรื่องมันสะท้อนความไม่เท่าเทียมในสังคมด้วย เช่น จังหวัดแม่ฮ่องสอน เป็นจังหวัดที่รายได้ประชากรน้อยที่สุด แถมยังไม่มีโรงภาพยนตร์ให้ดูอีกด้วย อะไรแบบนี้มันก็เลยเป็นแรงขับเคลื่อน ที่คนพูดต่อกันปากต่อปากว่าอยากจะไปดูเรื่องนี้ หรืออย่างใครที่ได้ไปดูมาแล้วเขาก็จะมาแชร์กันว่าชอบซีนไหน ได้แง่คิดอะไรจากหนังเรื่องนี้บ้าง ซึ่งหนูเองได้อ่านฟีดแบ็คหลายๆ อัน ก็รู้สึกว่าดีใจ ที่คนดูชื่นชอบและรักหนังเรื่องนี้ค่ะ”
ความสำเร็จของภาพยนตร์ “วิมานหนาม” ยังไม่หยุดเพียงเท่านี้ ล่าสุดหนังได้เดินทางไปสู่ตลาดโลก โดยไปฉายเป็น International Premiere ในเทศกาลภาพยนตร์นาน